Tuesday 6 December 2016

ประเมินการเรียน 1/59


ประเมินการเรียน 1/59



ข้อสังเกตจากการสอนกฎหมายในวิากฎหมายอาญาและกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา สัมมนากฎหมายอาญา ในปีการศึกษา 2559 ได้ข้อสรุปว่าเด็กนิติขาด "อิทธิบาท 4"

     อิทธิบาท แปลว่า บาทฐานแห่งความสำเร็จ หมายถึง สิ่งซึ่งมีคุณธรรม เครื่องให้ลุถึงความสำเร็จตามที่ตนประสงค์ ผู้หวังความสำเร็จในสิ่งใด ต้องทำตนให้สมบูรณ์ ด้วยสิ่งที่เรียกว่า อิทธิบาท ซึ่งจำแนกไว้เป็น 4 ประการ

ฉันทะ ความพอใจรักใคร่ในสิ่งนั้น เด็กนิติขาดฉันทะในวิชาชีพนักกฎหมาย ไม่ได้รักที่จะเรียนกฎหมาย มาเรียนเพราะที่บ้านอยากให้เรียน หรือเรียนเพราะสอบคณะอื่นไม่ได้ เมื่อขาดฉันทะ ก็ไม่มีความสนใจ ใส่ใจ จดจ่อที่จะศึกษากฎหมายอย่างจริงจัง

วิริยะ ความพากเพียรในสิ่งนั้น เด็กนิติขาดความเพียร รักความสบาย ไม่อดทนต่ออุปสรรค หนักไม่เอาเบาไม่สู้ ไม่ชอบแบบฝึกหัด ไม่ชอบการบ้าน รักสบายจนเคยตัว เมื่อรักสบายก็ไม่ได้พัฒนาตนเอง ไม่เข้าเรียน หนังสือก็ไม่อ่าน งานก็ยังไม่ส่ง

จิตตะ ขาดความเอาใจใส่ เด็กนิติสนใจเรื่องอื่นมากกว่าการเรียน สนใจเรื่องความรัก เรื่องเพื่อนพ้องน้องพี่ เรื่องกินเรื่องเที่ยว มากกว่าที่สนใจเรื่องเรียนของตัวเอง ไม่เข้าเรียน เขามาเรียนก็ไม่สนใจฟัง ไม่รู้ว่าควรทำอะไร ใส่ใจอะไร เล่นแต่โทรศัพท์ มองแต่มือถือ เป็นห่วงอยู่แต่ว่าเนตในห้องที่เรียนสัญญานจะถึงหรือไม่

วิมังสา ขาดความหมั่นสอดส่องในเหตุผลของสิ่งนั้น เด็กนิติไม่รู้ตัวเองว่าบกพร่องเรื่องใด หรือรู้ว่าบกพร่องเรื่องใดแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจแก้ไข ปล่อยให้สายจนแก้ไขอะไรไม่ได้ ปล่อยให้ความเกียจคร้านฉุดตัวเองให้ต่ำ รู้ว่าเขียนข้อสอบไม่ดี แต่ก็ไม่เคยฝึกเขียนให้ตนเองเขียนดีขึ้น อ่านหนังสือแต่จำไม่ได้ก็ไม่เคยหาวิธีช่วยจำ ปล่อยให้เป็นปัญหาติดตัวอยู่แบบนั้น

ที่กลล่าวมานั้น เป็นข้อสังเกตสำหรับนิสิตบางคน หากผู้ใดมีอิทธิบาท 4 อยู่แล้วคงจะประสบความสำเร็จในการเรียน เพราะเรียนอย่างมีจุดหมาย เอาใจใส่ในเส้นทางของตนเอง

แต่ถ้าผู้ใดขาดอิทธิบาท 4 จะไม่สำเร็จในการเรียน เพราะเรียนแบบไร้จุดหมาย ไม่มีพลังในการเรียน มีแต่ความท้อถอยในชีวิต เรียนไปก็คิดแต่จะดรอป จะลาออก จะย้ายสาขา



    "ผลการเรียนของตัวนิสิตเป็นตัวสะท้อนว่านิสิตมีอิทธิบาท 4 แค่ไหน" 😉

No comments:

Post a Comment