ความผิดฐานรีดเอาทรัพย์
(Blackmail)
Overview
ความผิดฐานรีดเอาทรัพย์กับความผิดฐานกรรโชกทรัพย์
ม.337
เป็นการขู่ว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าทำอันตรายต่าง ๆ ซึ่งอาจเป็นชีวิต
ร่างกาย ทรัพย์สิน ชื่อเสียง เสรีภาพ แต่การขู่เข็ญตาม ม.338
เป็นการขู่เข็ญว่าจะเปิดเผยความลับและเมื่อเปิดเผยแล้วก็ไม่คำนึงว่าจะเสียหายต่ออะไร
ความผิดฐานรีดเอาทรัพย์มีองค์ประกอบความผิดเหมือนกับความผิดฐานกรรโชกทรัพย์ทุกประการ
แตกต่างกันแต่เพียงในความผิดฐานรีดเอาทรัพย์เป็นการขู่เข็ญว่าจะเปิดเผยความลับ (Disclose
the secret) ไม่ได้เป็นการขู่เข็ญในเรื่องทั่วๆ ไป
Disclose the secret เปิดเผยความลับ
ซึ่งความลับ
(Secret)
หมายถึง ข้อเท็จจริงที่ไม่ประจักษ์แก่คนทั่วไปและเจ้าของความลับนั้นประสงค์จะปกปิดหรือให้รู้ในวงจำกัด
เพราะฉะนั้นสิ่งไหนจะเป็นความลับหรือไม่ต้องพิจารณาตัวบุคคลเป็นสำคัญ เช่น
การมีภริยาน้อย การเป็นหญิงขายบริการ การหลบเลี่ยงภาษี
โดยการเปิดเผยความลับนั้นจะทำให้ผู้ถูกขู่เข็ญหรือบุคคลที่สามเสียหาย
และผู้กระทำได้กระทำไปโดยประสงค์จะได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน
เช่น
คำพิพากษาฎีกาที่ 1945/2514 จำเลยได้ขู่เข็ญข่มขืนใจโจทก์
ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัดแห่งหนึ่ง
ว่าจะทำอันตรายต่อชื่อเสียงของห้างหุ้นส่วนจำกัดแห่งนั้นซึ่งเป็นนิติบุคคล
และเป็นบุคคลที่สาม และได้ขู่เข็ญข่มขืนใจโจทก์ ว่าจะเปิดเผยความลับ
ซึ่งการเปิดเผยนั้น จะทำให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดดังกล่าวเสียหาย
จนโจทก์ยอมจะให้เงินแก่จำเลยตามที่ถูกขู่เข็ญ
ถือได้ว่าโจทก์ซึ่งเป็นผู้ถูกขู่เข็ญเป็นผู้เสียหาย ตามความใน ป วิ อาญา มาตรา 2
(4) มีอำนาจฟ้องคดีในความผิดฐานกรรโชกและฐานรีดเอาทรัพย์
...................................................
เฉลิมวุฒิ สาระกิจ
อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา
No comments:
Post a Comment