ก่อนอื่นต้องพิจารณาก่อนว่าข้อสอบข้อนี้มีกี่ประเด็น ตามคำถามของโจทก์ให้วินิจฉัยว่า นายใหญ่ นายเล็ก และนายน้อยมีความผิดฐานใดหรือไม่ (ข้อสังเกต ข้อสอบกฎหมายอาญาของเนติบัณฑิตจะให้วินิจฉัยคนที่ลงมือก่อนเสมอ เพราะความรับผิดของบุคคลที่เกี่ยวข้องจะขึ้นอยู่กับความรับผิดของคนที่ลงมือ เช่น ตัวการร่วม ผู้ใช้ ผู้สนับสนุน และที่สำคัญต้องตอบอธิบายความรับผิดไปทีละคน)
ผมจะขออธิบายหลักการทางกฎหมายอาญาไปพร้อมกับวิธีการเขียนตอบข้อสอบแบบ IRAC ไปด้วยนะครับ
ประเด็นที่ ๑ ความรับผิดของนายใหญ่
(I) นายใหญ่มีเจตนาจะฆ่านายอ้วน ได้หยิบเอาปืนของนายเล็กไป เมื่อพบนายอ้วนได้ใช้อาวุธปืนกระบอกนั้นจ้องเล็งจะยิงนายอ้วน นายใหญ่มีความผิดฐานพยายามฆ่าหรือไม่
(R) จากข้อเท็จจริงดังกล่าวมีหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องด้งนี้
มาตรา ๘๐ ผู้ใดลงมือกระทำความผิดแต่กระทำไปไม่ตลอด หรือกระทำไปตลอดแล้วแต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผล ผู้นั้นพยายามกระทำความผิด
ผู้ใดพยายามกระทำความผิด ผู้นั้นต้องระวางโทษสองในสามส่วนของโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น
มาตรา ๘๑ ผู้ใดกระทำการโดยมุ่งต่อผลซึ่งกฎหมายบัญญัติเป็นความผิด แต่การกระทำนั้นไม่สามารถจะบรรลุผลได้อย่างแน่แท้ เพราะเหตุปัจจัยซึ่งใช้ในการกระทำหรือเหตุแห่งวัตถุที่มุ่งหมายกระทำต่อ ให้ถือว่าผู้นั้นพยายามกระทำความผิด แต่ให้ลงโทษไม่เกินกึ่งหนึ่งของโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น
(A) จากข้อเท็จจริงและหลักกฎหมายวินิจฉัยได้ดังนี้ นายใหญ่มีเจตนาฆ่านายอ้วนได้วางแผนไปดักซุ่มเพื่อจะยิงนายอ้วน แต่นายใหญ่ไม่ทราบว่าปืนของตนเองได้หายไป จึงได้เอาปืนของนายเล็กและนายน้อยไป เมื่อพบนายอ้วนได้ใช้ปืนของนายเล็กจ้องเล็งจะยิงนายอ้วน การกระทำของนายใหญ่ได้กระทำขึ้นขั้นลงมือกระทำความผิดแล้ว เพราะการใช้ปืนเล็งไปยังนายอ้วนโดยมีเจตนาฆ่า แม้จะยังไม่ทันได้ยิงก็ถือว่าได้ลงมือกระทำความผิด เมื่อกระทำไปไม่ตลอดจึงเป็นความผิดฐานพยายามกระทำความผิด แต่ข้อเท็จจริงยังปรากฎอีกว่า ปืนของนายเล็กที่นายใหญ่นำมาใช้เพื่อยิงนายอ้วนนั้นมีคนแอบเอากระสุนออกจนหมด เมื่อนายใหญ่ไปนำไปใช้จึงไม่อาจจะบรรลุผลได้อย่างแน่แท้ เพราะเหตุปัจจัยที่ใช้ในการกระทำ เนื่องจากปืนไม่มีลูก ดังนั้นนายใหญ่จึงมีความผิดฐานพยายามฆ่านายอ้วนซึ่งเป็นไปไม่ได้อย่างแน่แท้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๑ ต้องรับโทษไม่เกินกึ่งหนึ่งของความผิดฐานพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
(C) นายใหญ่มีความผิดฐานพยายามฆ่าซึ่งเป็นไปไม่ได้อย่างแน่แท้ ตามมาตรา ๘๑
ประเด็นที่ ๒ ความรับผิดของนายเล็ก
(I) นายเล็กได้นำปืนของตนไปไว้ที่บ้านของนายอ้วนโดยประสงค์จะให้นายใหญ่นำไปยิงนายอ้วน แต่นายเล็กไม่ทราบว่าปืนดังกล่าวมีคนแอบเอากระสุนออกจนหมด นายใหญ่ได้ใช้ปืนของนายเล็กจ้องเล็งจะยิงนายอ้วน นายเล็กจะมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนหรือไม่
(R) จากข้อเท็จจริงดังกล่าวมีหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องดังนี้
มาตรา ๘๖ ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด แม้ผู้กระทำความผิดจะมิได้รู้ถึงการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกนั้นก็ตาม ผู้นั้นเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ต้องระวางโทษสองในสามส่วนของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดที่สนับสนุนนั้น
(A) จากข้อเท็จจริงและหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องวินิจฉัยได้ด้งนี้ นายเล็กทราบว่านายใหญ่มีเจตนาจะฆ่านายอ้วน และอยากให้นายอ้วนตาย จึงได้นำปืนของตนเองไปไว้ที่บ้านนายใหญ่ และนายใหญ่ได้ใช้ปืนของนายเล็กไปเล็งจะยิงนายอ้วน การกระทำของนายเล็กย่อมเป็นการให้ความช่วยเหลือในการกระที่นายใหญ่กระทำความผิด แม้นายใหญ่จะไม่รู้ถึงการช่วยเหลือของนายเล็กเลยกระตาม นายเล็กมีความผิดฐายเป็นผู้สนับสนุน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 ต้องรับโทษสองในสามส่วนของความผิดของนายใหญ่
(C) นายเล็กมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน
ประเด็นที่ ๓ ความรับผิดของนายน้อย
(I) นายน้อยต้องการให้นายอ้วนตายเช่นเดียวกันจึงได้เอาปืนของตนเองไปไว้ที่บ้านของนายใหญ่ และเมื่อนายใหญ่จะไปฆ่านายอ้วนก็ได้นำปืนกระบอกของนายน้อยไปด้วย แต่ปรากฎว่านายใหญ่ไม่ได้ใช้ปืนของนายน้อยยิงนายอ้วน นายน้อยจะมีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนหรือไม่
(R) จากข้อเท็จจริงมีหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องดังนี้
มาตรา ๘๖ ผู้ใดกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิด แม้ผู้กระทำความผิดจะมิได้รู้ถึงการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกนั้นก็ตาม ผู้นั้นเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ต้องระวางโทษสองในสามส่วนของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดที่สนับสนุนนั้น
(A) จากข้อเท็จจริงและหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องวินิจฉัยได้ว่า นายน้อยมีเจตนาอยากให้นายอ้วนตายเช่นเดียวกัน และได้ให้การช่วยเหลือนายใหญ่โดยการนำปืนของตนเองไปไว้ที่บ้านของนายใหญ่ แต่อย่างไรก็ตาม ปรากฎข้อเท็จจริงว่า นายใหญ่ไม่ได้ใช้ปืนของนายน้อยกระทำความผิด นายใหญ่จึงไม่ได้รับประโยชน์จากการช่วยเหลือของนายน้อยเลย ดังนั้ นายน้อยจึงไม่ใช่ผู้สนับสนุน
(C) นายน้อยไม่มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุน
ข้อสังเกต
1. การวินิจฉัยเกี่ยวกับการลงมือกระทำความผิด โดยหลักแล้วตามกฎหมายไทยใช้หลักความใกล้ชิดต่อผล โดยพิจารณาว่า หาการกระทำนั้นใกล้ชิดต่อผลสำเร็จแล้ว (เป็นการกระทำขั้นตอนสุดท้าย) แต่สำหรับกรณีของการยิงปืน ศาลได้ตัดสินไว้เป็นแนวว่า การเล็งปืนไปยังผู้เสียหายก็ถือว่าได้ลงมือกระทำความผิดแล้ว แม้ยังไม่ได้ลั่นไกปืนเลยก็ตาม
โปรดอ่าน 👉👉👉 การพยายามกระทำความผิด
2. การเป็นผู้สนับสนุนนั้น ต้องมีการให้ความช่วยเหลือหรือความสะดวกในการกระทำความผิด และผู้กระทำความผิดต้องได้รับประโยชน์จากการช่วยเหลือด้วย หากไม่ได้รับประโยชน์ย่อมไม่ใช่ผู้สนับสนุน และหากมีการช่วยเหลือหรือความสะดวกแล้วแม้ผู้กระทำความผิดจะไม่ได้รู้ถึงการช่วยเหลือเลยก็ตาม
โปรดอ่าน 👉👉👉 ผู้สนับสนุน
คำค้นหา : ข้อสอบเนติบัณฑิต สอบเน กฎหมายอาญา การพยายามกระทำความผิด ลงมือกระทำความผิด ผู้สนุบสนุน
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
No comments:
Post a Comment