ความผิดเกี่ยวกับเอกสาร
Overview:
ความผิดเกี่ยวกับเอกสาร
เป็นความผิดที่มุ่งคุ้มครองความมีอยู่และความถูกต้องของเนื้อความในเอกสาร
เพื่อให้เอกสารที่ได้มีการทำขึ้น มีความน่าเชื่อถือ(Reliable)
สามารถใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินกิจการต่างๆ ได้
ความผิดเกี่ยวกับเอกสารมีความผิดหลักๆ
ที่สำคัญอยู่ ดังนี้
1. ความผิดฐานปลอมเอกสาร
2. ความผิดฐานแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสาร
3. ความผิดฐานใช้หรืออ้างเอกสารปลอม
ความผิดฐานปลอมเอกสาร
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า เอกสารมีความหมายว่าอย่างไร ซึ่งในบทนิยาม
ในประมวลกฎหมายอาญา ม.1
ได้มีการให้บทนิยามความหมายที่จะต้องทำความเข้าใจก่อน ดังนี้
(7)
"เอกสาร" หมายความว่า กระดาษหรือวัตถุอื่นใดซึ่งได้ทำให้
ปรากฏความหมายด้วยตัวอักษร ตัวเลข ผัง หรือแผนแบบอย่างอื่นจะเป็นโดย วิธีพิมพ์
ถ่ายภาพหรือวิธีอื่นอันเป็นหลักฐานแห่งความหมายนั้น
(8)
"เอกสารราชการ" หมายความว่า เอกสารซึ่งเจ้าพนักงานได้ทำ
ขึ้นหรือรับรองในหน้าที่ และให้หมายความรวมถึงสำเนาเอกสารนั้น ๆ ที่เจ้า
พนักงานได้รับรองในหน้าที่ด้วย
(9)
"เอกสารสิทธิ" หมายความว่า
เอกสารที่เป็นหลักฐานแห่งการก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวนหรือระงับซึ่งสิทธิ
ดังนั้นเมื่อเจอ
คำว่าเอกสาร เอกสารราชการ และเอกสารสิทธิ ต้องตีความตามบทนิยามใน ม.1 เท่านั้น
ใน ม. 264 ความผิดฐานปลอมเอกสาร (ทั่วไป) ก็ต้องแยกพิจารณาออกเป็น 2 ส่วนคือ
1.
การปลอมเอกสารโดย ปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนใด
เติมหรือตัดทอนข้อความ หรือแก้ไขด้วยประการใดๆ ในเอกสารที่แท้จริง
หรือประทับตราปลอม หรือลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร
2.
การปลอมเอกสารโดยการกรอกข้อความลงในแผ่นกระดาษหรือวัตถุอื่นใด
ซึ่งมีลายมือชื่อของผู้อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอม หรือโดยฝ่าฝืนคำสั่งของผู้อื่น
ซึ่งการปลอมทั้ง 2 วิธี มีผลในทางกฎหมายเป็นการปลอมเอกสารเช่นเดียวกัน
และหากการปลอมเอกสารดังกล่าว
เป็นการปลอมเอกสารสิทธิหรือเอกสารราชการ ก็จะมีความผิดตาม ม.265 ซึ่งมีโทษสูงขึ้น และหากเป็นการปลอมเอกสารบางประเภทที่มีความสำคัญสูง
เช่น เอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการ พินัยกรรม ฯลฯ ก็จะมีความผิดตาม ม.266 ซึ่งมีโทษหนักกว่าการปลอมเอกสารทั่วไปขึ้นไปอีก
ความผิดแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ
ม.267
ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าความผิดฐานนี้
เป็นคนละกรณีกับความผิดฐานแจ้งความเท็จ ใน ม.137
ซึ่งเป็นความผิดต่อเจ้าพนักงาน กฎหมายมุ่งคุ้มครองเจ้าพนักงาน
แต่ในความผิดฐานแจ้งให้เจ้าพนักจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสาร
กฎหมายมุ่งคุ้มครองเอกสารที่เจ้าพนักงานทำขึ้น ซึ่งจะต้องมีความถูกต้องและเชื่อถือได้
มีประเด็นที่น่าสนใจและชวนให้เกิดความสับสนกับผู้เรียน
ดังนี้
หากแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานแล้ว
แต่เจ้าพนักงานไม่เชื่อเลยไม่ได้จดลงในเอกสารมหาชนหรือเอกสารราชการ ผู้แจ้งความเท็จย่อมมีความผิดฐานแจ้งความเท็จ
ม.137 แล้ว แม้เจ้าพนักงานจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม ความผิดก็สำเร็จแล้ว
แต่ในความผิดฐานแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสาร
ผู้กระทำจะมีความผิดฐานนี้หรือไม่ เป็นการพยายามกระทำความผิดแล้วหรือยัง
หากพิจารณาเฉพาะตัวผู้กระทำเมื่อได้แจ้งความเท็จไปแล้วก็ไม่มีอะไรที่จะต้องกระทำอีกเป็น
Last
Act ของผู้กระทำอันเป็นการลงมือกระทำความผิดแล้ว
เป็นพยายามกระทำความผิด
แต่ถ้าหากพิจารณาให้ดีดีจะเห็นว่า
ความผิดฐานนี้ องค์ประกอบความผิดคือ
เจ้าพนักงานได้จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารมหาชนหรือเอกสารราชการ
ถ้าเจ้าพนักงานยังไม่ได้จดก็ยังไม่ครบองค์ประกอบความผิด ใช่หรือไม่
ส่วนความผิดที่สำคัญสุดท้าย คือ
ความผิดฐานใช้หรืออ้างเอกสารปลอม
ประเด็นที่สำคัญ
คือ จะมีความผิดฐานนี้ได้ต้องเป็นการใช้หรืออ้างเอกสารปลอมเท่านั้น
ซึ่งก็จะเดี่ยวเนื่องกับการวินิจฉัยว่าเอกสารดังกล่าว เป็นเอกสารปลอมไหมนั่นเอง
และประเด็นสำคัญอีกประการ
คือ กรณีของผู้ใช้หรืออ้างเอกสาร เป็นผู้ปลอมเอกสารขึ้นมาเอง
ความรับผิดและโทษตามกฎหมายก็จะเป็นไปตาม ม.268
วรรค 2
ผมเขียนสรุปกว้างๆ
เพื่อให้นิสิตได้เห็นภาพรวม ส่วนรายละเอียดนิสิตควรศึกษาเพิ่มเติมในหนังสือและตำรา
และศึกษาแนวคำวินิจฉัยของศาลเพิ่มเติม
.....................................................................
เฉลิมวุฒิ สาระกิจ
อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา
No comments:
Post a Comment