Monday, 9 October 2017

การจะพิจารณาว่าผู้ใดเป็นผู้เสียหายที่แท้จริงหรือไม่มีหลักเกณฑ์อย่างไร

การจะพิจารณาว่าผู้ใดเป็นผู้เสียหายที่แท้จริงหรือไม่มีหลักเกณฑ์อย่างไร

ผู้เสียหายที่แท้จริง หมายถึง บุคคลที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำความผิดอาญา ในฐานนั้นโดยตรงหลักเกณฑ์ในการพิจารณาว่าเป็นผู้เสียหายที่แท้จริงหรือไม่ พิจารณาจากหลักเกณฑ์ 3 ประการ ดังนี้

1) ได้มีความผิดอาญาฐานใดฐานหนึ่งเกิดขึ้นหรือไม่ โดยพิจารณาตาม ประมวลกฎหมายอาญาหรือกฎหมายอาญาอื่น ๆ โดยที่ผู้ที่จะเป็นผู้เสียหายในความผิดที่ยังไม่เกิดนั้นไม่ได้
2) บุคคลนั้นเป็นผู้ที่ได้รับความเสียหาย จากการกระทำความผิดนั้นโดยตรง โดยพิจารณาก่อนว่ากฎหมายอาญาในเรื่องนั้นๆ มุ่งประสงค์จะคุ้มครองใคร เอกชนหรือส่วนรวม ในกรณีที่กฎหมายมุ่งคุ้มครองเอกชน เช่น ความผิดฐานลักทรัพย์ ความผิดฐานพรากผู้เยาว์ ความผิดเกี่ยวกับการใช้เช็ค ความผิดเหล่านี้กฎหมายมุ่งคุ้มครองประโยชน์ของเอกชนดังนั้นผู้ที่เป็นผู้เสียหายก็คือ เจ้าของทรัพย์ ผู้ปกครอง หรือผู้ทรงเช็ค เป็นต้น ส่วนกรณีที่กฎหมายมุ่งคุ้มครองส่วนรวม เอกชนไม่อาจเป็นผู้เสียหายได้ เช่น ความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก ความผิดฐานทำลายพยานหลักฐาน ป.อ.ม.199 ความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติด ความผิดตามพระราชกำหนดกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ความผิดเหล่านี้รัฐมุ่งคุ้มครองความสงบสุขของประชาชนส่วนร่วม ดังนั้นผู้เสียหายคือรัฐเท่านั้น เอกชนไม่อาชเป็นผู้เสียหายได้

แต่ในบางกรณีเอกชนก็ถือว่าเป็นผู้เสียหายได้ เช่น การจดสมรสซ้อน ซึ่งเป็นความผิดฐานฐานแจ้งความเท็จ คู่สมรสเดิมเสียหาย คู่สมรสใหม่ก็เป็นผู้เสียหาย ตาม ป.อ.ม.137 และรัฐก็เป็นผู้เสียหายด้วย
3) บุคคลนั้นเป็นผู้เสียหายโดยนิตินัย ซึ่งหลักเกณฑ์นี้มาจากแนวคำพิพากษาศาลฎีกา (มาจากหลักสากลที่ว่า "บุคคลควรมาศาลด้วยมืออันบริสุทธิ์") ดังนั้นแม้บุคคลนั้นเป็นผู้เสียหายโดยตรงจากความผิดอาญาตามข้อ 2) มาแล้วก็ตาม หากเขาไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัยแล้วก็ไม่อาจเป็นผู้เสียหายตาม ม. 2(4)





No comments:

Post a Comment